เคล็ดลับ... แม่มือใหม่ หัวใจไม่อ่อนแอ

               ร่างกายคุณแม่ที่เปลี่ยนแปลง ก็ได้นำพาหัวใจของคุณแม่ให้อ่อนแอได้นะ แต่อย่าปล่อยให้ภาวะอารมณ์ที่อ่อนไหวมาทำลายเรื่องดี ๆ และความสุขของการเป็นแม่ของลูกไปอย่างเสียดาย

               ภาวะความเคลียด วิตกกังวลในหญิงตั้งครรภ์นั้น เป็นที่รู้กันดีว่าแทบไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้พ้น บางคนเป็นมาก บางคนเป็นน้อย บางคนเป็นเรื้อรังยาวนาน บางคนเป็นเพียงระยะสั้น ๆ ซึ่งในทางการแพทย์นั้นอธิบายว่าเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย รวมไปถึงความพร้อมที่แตกต่างกันของคุณแม่แต่ละคน เช่น เหตุผลด้านความเป็นอยู่ ฐานะ การเงิน เป็นต้น

               ความเครียดมากผลกระทบทำให้คุณจะกลายเป็นคุณแม่ที่จิตใจอ่อนแอ เปราะบางได้ง่ายมาก

เมื่อถึงจุดนั้นอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาก็จะเป็นปัญหาขึ้นมาทันที อะไรที่กระตุกต่อมความน้อยใจ โศกเศร้า คุณก็แทบจะยั้งไม่ไหว รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่นั่งจมอยู่กับน้ำหูน้ำตา ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คาดไม่ถึงทีเดียวเลย

               ปัญหาที่เลี่ยงไม่ได้นี้ สิ่งสำคัญคือการทำอย่างไรไม่ให้ภาวะความอ่อนแอนั้นกลืนกินตัวเราจนเสียสมดุลในตัวเอง ฟังดูเหมือนไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปหรอกค่ะ

ฉันต้องเป็นแม่ที่เข้มแข็ง มีสุขภาพจิตที่ดี เพื่อลูกจะได้แข็งแรงและอารมณ์ดี" จากนั้นหาเวลาว่าง ๆ สักวันพิจารณาตัวเองและลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้

1. ฟังเสียงหัวใจตัวเอง

               สำคัญมากที่คุณจำเป็นต้องรู้ว่าขณะนี้รู้สึกอย่างไรกับตัวเองบ้าง คุณรักตัวเองที่กำลังจะมีลูกหรือไม่ คุณกำลังเกลียดตัวเองหรือเปล่า ไม่ว่าการตั้งครรภ์ครั้งนี้จะเป็นไปตามแผนหรือเกิดจากความผิดพลาด คุณคิดว่าจะรักเด็กน้อยที่เกิดมาได้มากน้อยแค่ไหน มันสำคัญที่คุณจะเข้าใจภาวะจิตใจที่แท้จริงของตัวเอง เพื่อประเมินสถานะการณ์ต่อได้อย่างถูกต้องโดยไม่หลอกตัวเอง

2. ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร อย่ารู้สึก "แย่" กับตัวเอง

               เป็นเรื่องจริงที่คุณไม่ควรรู้สึกแย่กับตัวเอง แน่นอนว่าหากคุณฟังเสียงตัวเองแล้วพบว่าคุณมีเรื่องให้คิดและเครียดมากมาย สิ่งที่คุณค้องทำต่อจากนี้คือการนำตัวเองให้พ้นจากสภาวะ ความเครียดด้วยการคิดในเชิงสร้างสรรค์ เชื่อเถอะค่ะว่าการรู้สึกแย่กับตัวเอง ไม่ได้ช่วยอะไรเลย จำไว้เสมอว่า "การเป็นแม่" นันคือเรื่องดี ๆ ในชีวิต และหากผ่านช่วงนี้ไปได้ คุณจะมองเห็นสิ่งดี ๆ ในชีวิต และหากผ่านช่วงนี้ไปได้ คุณจะมองเห็นสิ่งดี ๆ อีกมากมายที่ตามมา

3. อย่าปิดช่องว่างให้ "ความอ่อนแอ"

               ภาวะอ่อนไหวเปราะบางนั้นไม่มีใครโทษใครได้ แต่คุณคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า "อ่อนไหว แต่ไม่อ่อนแอ" ใช่ไหมค่ะ ประโยคนี้ ยังใช้ได้เสมอ ต้องแยกให้ออกระหว่างการรู้สึกรู้สากับอะไรได้ง่าย(ตามประสาคนท้อง) กับความอ่อนแอ นั่นถือเป็นคนละเรื่องกัน ความอ่อนไหวจะทำให้คุณใส่ใจกับทุกอย่าง มีอารมณ์ร่วมได้ง่ายกับสิ่งที่มากระทบ แต่ความอ่อนแอคือความยอมแพ้ท้อถอย โทษตัวเอง และปล่อยให้ตัวเองก้าวสู่ภาวะซึมเศร้า เมื่อไรที่พบว่ากำลังจะอ่อนแอ ขอให้หาอะไรทำทันที เพื่อหลีกเลี่ยงอารมณ์นั้นให้ได้

4. เบียดมันให้ตกขอบ

               "มัน" ในที่นี้คือ ความอ่อนแอ ท้อถอย การยอมแพ้ในปัญหาที่คุณกำลังเจอนั้นแหละค่ะ หากพบว่าสุขภาพไม่ดีนักก็ปรึกษาหมอ ไม่ใช่คิดจะจิตนาการไปเอง หากกังวลกับค่าใช้จ่าย ควรมองหาวิธีเพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายไม่จำเป็น ปรึกษาคนใกล้ชิดถึงแผนการออม ไม่ใช่นั่งท้อถอยเฉย ๆ แล้วคิดว่าใครจะแก้ปัญหาให้หรือหากคุณน้อยอกน้อยใจในตัวสามี ทางที่ดีคือเปิดอกคุยกันแล้วบอกว่าคุณต้องการอะไร ไม่ใช่เก็บไว้ลำพัง เป็นต้น วิธีแบบนี้จะทำให้คุณเบียดความอ่อนแอออกไปจากชีวิตได้

5. อย่าทอดทิ้งสังคม

               ถ้าคุณกำลังจะเริ่มร้องไห้ ลองลุกไปหยิบโทรศัพท์แล้วโทหาใครสักคนเพื่อพูดคุยถามไถ่ทุกข์สุกบ้าง ก็เป็นวิธีการที่ไม่เลวนะคะ  บางครั้งการอยู่กับตัวเองมากเกินไปทำให้คุณจมอยู่ในอารมณ์ที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะเลยเถิดไปถึงขั้นไหน เราทุกคนไม่มีใครตัวคนเดียวในโลก อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนและญาติมิตร แม้จะไม่ได้เข้าใจเราไปเสียทุกเรื่อง แต่ไม่มีใครใจร้ายกับเราแน่หากเราเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความหวังดีต่อกัน

6.บันทึกความอ่อนแอ

               ท้ายที่สุดแล้ว หากคุณลองทำทุกข้อแล้ว แต่ก็ยังหลีกหนีในความอ่อนแอในจิตใจไม่พ้นแล้ว ก็ลองบันทึกความอ่อนแอเหล่านั้นลงบนสมุด วันละหน้าสองหน้าก็ได้ค่ะ การเขียนและการถ่ายทอดเป็นการระบายที่ดีอีกวิธีหนึ่ง เมื่อผ่านพ้นไปแต่ละช่วง คุณลองเอากลับมาอ่านแล้วจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง ช่วยให้คุณรู้จักตัวเองมากขึ้น

               หากทำได้ครบตามที่แนะนำ เชื่อแน่ค่ะว่าคุณจะกลายเป็นคุณแม่มือใหม่ที่หัวใจเข้มแข็ง และมีความสุขได้ไม่ยาก อย่างน้อยก็มีภูมิคุ้มกันในหัวใจ มากพอที่จะไม่ทำให้ลูกน้อยได้รับผลกระทบจากความเครียดที่มากเกินไป ลองดูนะคะ อะไรที่เราพยายามทำย่อมดีกว่าไม่ได้ทำเสมอค่ะ

cr.ModernMom