ครอกฟี้ .... ของหนูเบบี๋
รู้กันใช่ไหมคะ ว่าการนอนนั้นดีต่อพัฒนาการของลูก แต่เวลาที่เห็นลูกเอาแต่หลับ มือใหม่ก็อดห่วงกังวลไม่ได้ แต่ครั้นต้องมาเจอสถานการณ์ลูกหลับแป๊บๆตื่น ลูกหลับยาก เวลาการนอนของแม่และลูกสวนทางกัน แม่นี้ก็เท่าเอาแม่อ่อนแรง อ่นใจได้เหมือนกัน ปัญาหาเหล่านี้จะหมดไปหรือไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าเรารู้จักและเข้าใจแผนการนอนและฝึกนิสัยการนอนให้ลูกตั้งแต่ลูกยังอยู่ในวัยอุแว้ค่ะ
1. จับท่านอนของลูก
คอยสังเกตและเรียนรู้สัญญาณบอกอาการอ่อนเพลียง่วง เวลา เหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้จัก และ เข้าใจนิสัยการนอนของลูกมาดขึ้น และลดความเครียด กังวลในหัวใจลงได้
2. ฝึกลูกเรียนรู้เวลา
ช่วยลูกแยกความแตกต่างระหว่างกลางวันและกลางคืน ด้วยสัญญาณต่างๆรอบๆตัว เช่น แสงไฟ เสียงของบรรยากาษโดยรอบ ถ้าลูกนอนกลางวัน คุณไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะต้องเงียบ ต้องมืด แค่อย่าให้เสียงดัง หรือแสงจ้าจนลูกผวาหรือไม่สบายตัวก็พอ ส่วนบรรยากศการนอนในตอนกลางคืน พยายามตัดเสียงรบกวน แสงสลัว ร้องเพลงเบาๆ พูดคุยหรือเล่านิทาน ในบรรยากศเงียบสงบ เรื่องนี้เริ่มฝึกกันได้ตั้งแต่อายุ 2 สัปดาห์ ถ้าทำประจำลูกจะเริ่มแยกแยะเวลากลางวันหรือกลางคืนได้ และปรับเวลาการนอนให้ตรงกับของครอบครัวได้ รวมถึงควรฝึกให้ลูกนอนและกินนมในเวลาที่แนนอนเป็นประจำ เพื่อลูกจะได้ฝึกการเรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรมที่ปฎิบัติ
3. ให้โอกาสลูกหลับเอง
ถ้าเห็นลูกสลึมสลือ อุ้มลูกวางบนเบาะนอนอย่างเบามือ ก่อนลูกหลับ ต้องก่อนลูกหลับนะคะ อย่าอุ้มกล่องจนหลับคาอ้อมกอด
โดยธรรมชาติของเด็กเล็ก จะต้องรู้สึกตื่นตัวเป็นพักๆขณะหลับอยู่แล้ส ช่วงเวลานี้ คุณแม่ไม่่ควร ตอบสนองต่อการตื่นของลูกมากเกินไป ถ้าผ่านช่วงเวลาทำความรู้จักกิจวัตรลูกมาพอควรแล้ว ขณะลูกน้องกลางดึก ควรรอสักครู่แล้วค่อยลุกมาดู ยังไม่ต้องอุ้มหรือเปิดไฟในทันที แต่ถ้าลูกยังร้องไม่หยุด ให้ตบก้นลูบตัวเบาๆ แล้วสังเกตดูว่ามีความผิดปกติอะไรบ้าง อาจเกิดจากเปียก หรือ หิว หรือปวดท้องก็เป็นได้
การตอบสนองของลูกในทันทีและมากเกินไป เช่น การอุ้มขึ้นกล่อม หรือ เปิดไฟทันที หรือให้ดูดนมทุกครั้งขณะที่ร้อง จะทำให้ลูกติดการตอบสนองนี้และไม่สามารถหลับด้วยตัวเองได้ เว้นแต่เป็นเสียงร้องที่ผิดปกติ ควรมาดูโดยเร็วเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ อย่ากังวลนะคะ ถ้าฟังเสียงลูกร้องทุกวันมาพักใหญ่ คนเป็นแม่จะสามารถแยกแยะได้ว่าเสียงลูกเป็นอย่างไรค่ะ
4. จัดสิ่งแวดล้อมขณะลูกหลับ
ที่นอนเดิม ผ้าห่มผืนเดิม และอุ้มลูกเข้านอนเวลาเดิม ก็จะสร้างความคุ้นเคยให้กับลูกได้ง่ายๆทำให้ลูกหลับง่ายและรู้เวลามากขึ้น แต่ถ้าถึงเวลาแล้วแต่ลูกยังไม่ง่วง ก็ต้องทำให้่ช่วงเวลานั้น เป็นกิจกรรมเบาๆ สงบๆ บนเตียง เช่น ร้องเพลงกล่อม พูดคุย เล่านิทาน หรืออาจใช้ตัวช่วย ในที่นี้คือ ตุ๊กตากล่อมนอน เช่น ม้าน้ำกล่อมนอน หรือ ยีราฟกล่องนอน ซึ่งของเล่นเหล่านี้จะมีอิทธิพลอย่างมาก เพราะเพลงจากของเล่นตุ๊กตานี้จะช่วยให้ลูกเคลิ้มและหลับสบาย ประกอบกับเพลงที่นุ่ม น่านอน ชวนง่วงเป็นอย่างมาก รวมถึงตัวตุ๊กตาที่นุ่มน่ากอด น่าสัมผัส จะช่วยให้เด็กรู้สึกอบอุ่ม และบรรยากาศดีมากๆอีกด้วยค่ะ
5. เสริมเทกนิคอื่นๆ
ถ้ากลางคืนลูกไม่ค่อยง่วง กลางวันอย่าพยายามให้ลูกหลับหลังบ่ายสามโมง และไม่ควรสร้างความเคยชิน ให้ลูกด้วยการให้ดูดจุุกนมเทียมทุกครั้งที่ต้องให้ลูกนอน เพราะเมื่อลูกคุ้นชินไปแล้ว ลูกต้องมีมันทุกครั้งและจะร้องหาทันที เมื่อตื่นมาแล้วพบว่าจุกนมหลอกหลุดจากปาก
ขอขอบพระคุณ หนังสือโมเดิร์นมัม และ ร้านkidsza ค่ะ
ร้านKidsza จำหน่าย ของเตรียมคลอด สินค้าเด็กอ่อน ของใช้เด็ก ของเล่นเด็ก ร้านแม่และเด็ก เซตเตรียมคลอด ของใช้คุณแม่ เป้อุ้มเด็ก กระเป๋าสัมภาระคุณแม่ สระน้ำเป่าลม ห่วงยางเด็ก
เสื้อผ้าเด็ก ถุงเท้าเด็ก เครื่องแต่งกายเด็ก โมบายเด็ก หนังสือเด็ก ผ้าซับน้ำลาย ผ้าคลุมให้นม
ยางกัดยีราฟโซฟี แผ่นรองคลาน รถเข็นเด็ก คาร์ซีท Camera Pigeon เครื่องปั๊มนม Spectra ของใช้เด็กอ่อน